เกร็ดความรู้ เทวะตำนาน

ชคัทคุรุ ศรี อาทิ ศังกราจารย์

ชคัทคุรุ ศรี อาทิ ศังกราจารย์ (जगद्गुरु श्री आदि शङ्कराचार्य/Jagad Guru Shri Adi Shankaracharya) ท่านถือกำเนิดขึ้นที่หมู่บ้านกาลฑี ในแคว้นเจระ (ปัจจุบันคือ เกรละ) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอนุทวีปอินเดีย ท่านเป็นผู้เผยแพร่หลักปรัชญาอัทไวตะ เวทานตะ (अद्वैत वेदान्त/Advaita Vedanta) ซึ่งกล่าวถึง พรหมัน เป็นความจริงแท้ ความจริงหนึ่งเดียวสูงสุด ไร้รูป ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในจักรวาลเป็นเพียงมายาของพรหมัน เชื่อกันว่า ชคัทคุรุ ศรีอาทิ ศังกราจารย์นั้นเป็นอวตารของพระทักษิณามูรติ (श्रीदक्षिणामूर्ति/Shri Dakshinamurti) หรือ พระศิวะในภาคของปรมคุรุ (บรมครู)(ภาพที่ปรากฏอยู่ในโคปุรัมทางเข้าวัดแขกสีลม) และอยู่ในโลกนี้เพียงแค่ 32ชันษา เท่านั้น ก็บรรลุนิรวาณ ซึ่งท่านนั้นได้เข้าบวชเป็นสันยาสี ตั้งแต่มีอายุเพียง 8ชันษา หลังจากการละสังขารของ ศิวคุรุผู้บิดา

กล่าวกันว่า พระทักษิณามูรติ รูปปรากฏของพระศิวะในฐานะปรมคุรุ ทรงอวตารลงมายังพิภพนี้เมื่อ 1,321ปีก่อน (พ.ศ.1243) ตามคำอาราธนาของพระพรหมา และเหล่าทวยเทพ พร้อมทั้งเหล่าฤๅษีมุนีทั้งหลาย เพื่อรักษาธรรมะ และรักษาคำสอน อีกทั้งขนบประเพณีจารีตจากศรุติ (พระเวท และอุปนิษัท หรือ เวทานตะ อันเป็นคัมภีร์ชั้นต้น) และสมฤติ (คัมภีร์ปุราณะ และวรรณกรรมทางศาสนาต่างๆ อันเป็นคัมภีร์ชั้นรอง) จากพวกลัทธินอกศาสนา หรือ นอกระบบไวทิกะ หรือ เศราตะ (อันปฏิบัติตามคัมภีร์ศรุติ) และสมารตะ (อันปฏิบัติตามคัมภีร์สมฤติ)ที่มีถึง72สำนัก ซึ่งกำลังบ่อนทำลายคุณธรรมอันดีงาม และประเพณีจารีตจากศรุติ และ สมฤติ รวมถึงความเสื่อมของเศราตะพราหมณ์ และสมารตะพราหมณ์เอง


โดยทรงอวตารมาเป็นบุตรของ ศรี ศิวคุรุ (श्री शिवगुरु/Shri Shivaguru) และ ศรี อารยามพา (श्री आर्याम्बा/Shri Aryamba) ผู้ภักดีที่อยู่ในวรรณะพราหมณ์ ซึ่งกำลังอาราธนาขอบุตรสืบสกุลจากพระศิวะเอง เมื่อกำเนิดขึ้นมาก็ได้รับนามว่า ศังกร ภายหลังบิดาละสังขาร ก็ได้บวชเป็นสันยาสี (นักบวชฮินดูผู้สละชีวิตคฤหัสถ์) และได้ออกจาริกตามหาคุรุ จนได้พบกับ สวามี โควินทะ ภควัตปาทะ (स्वामी गोविन्द भगवत्पाद/Swami Govinda Bhagavatpada) ณ ริมฝั่งแม่น้ำนรมทา ทางตอนกลางของอนุทวีปอินเดีย เพื่อศึกษาพระคัมภีร์ต่างๆ รวมถึงหลักปรัชญาอัทไวตะ เวทานตะ โดยในการพบกันครั้งแรกระหว่างท่าน กับคุรุ ศรี ศังกร ก็ได้แสดงหลักปรัชญาอันละเอียดลึกซึ้งต่อ ศรี คุรุ โควินทะ ภควัตปาทะ ซึ่งปัจจุบันเป็นบทสวดท่องกัน เรียกว่า นิรวาณษัฏกัม หรือ อาตมะษัฏกัม ซึ่งว่าด้วย พรหมัน อันเป็นความจริงสูงสุด
จากนั้น ศรี ศังกราจารย์ ก็ได้เผยแพร่หลักคำสอนซึ่งมีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในยุคต่อมา รวมทั้งโต้วาที กับเจ้าสำนักปรัชญาต่างๆ อีกทั้งจาริกไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และได้บรรลุนิรวาณที่เกทารนาถ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งบนขุนเขาหิมาลัย ทางตอนเหนือของอนุทวีปอินเดีย (บ้างก็ว่า ที่กาญจีปุรัม ทางตอนใต้) รวมทั้งหมด 32ปี ที่ได้ปรากฏมาอยู่โลกนี้ เพื่อฟื้นฟูพระคัมภีร์และหลักคำสอนต่างๆ อีกทั้งปฏิรูปศาสนาให้พัฒนาขึ้น กล่าวได้ว่า ท่านเป็นผู้ที่มีอิทธิพลที่สุดในโลกผู้หนึ่งในยุคนั้นเลยก็ว่าได้.

กิตติกร อินทรักษา