Uncategorized

สุทามา

ความเป็นมาของท่านสุทามามีพรรณาอยู่ในภควัตรปุราณะ ซึ่งถือเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาเล่มหนึ่งของฮินดู เรื่องมีอยู่ว่า สุทามานั้นเกิดมาในตระกูลพราหมณ์ที่ยากจน และได้มาเป็นสหายคนสนิทของพระกฤษณะ เมื่อครั้งเรียนอยู่ในอาศรมของท่านสัมทีปนี
 
ครั้งหนึ่ง ภรรยาของท่านสัมทีปนีได้ใช้ให้สุทามาและพระกฤษณะไปเก็บไม้ในป่า ขณะที่ทั้งสองเก็บไม้อยู่นั้น ได้มีพายุใหญ่พัดผ่านมา ทำให้ไม้ที่สะสมไว้โดนพายุพัดหายไปทั้งหมด สุทามากลัวมากพระกฤษณะจับแขนของสุทามาไว้แน่น เพื่อให้สุทามารู้สึกปลอดภัย และเมื่อพายุสงบลง พวกเขาก็พบว่า พวกครับกลับมาอยู่ที่อาศรมของท่านสัมทีปนีนั่นเอง สุทามารู้สึกโล่งใจ และขอบคุณพระกฤษณะ ท่านสัมทีปนีผู้เป็นอาจารย์จึงได้ให้พรแก่ทั้งสองว่าให้มีชีวิตยื่นยาว และมีแต่ความสงบสุข
 
 
หลังจากที่ทั้งสองเรียนจบ ทั้งสองต่างแยกย้ายไปทำตามหนทางที่ตนเองต้องการ โดยพระกฤษณะกลับไปปกครองนครทวารกา และ ทรงสยุมพรกับพระรุกขมินี(เทวีแห่งความรุ่งเรือง) ส่วนสุทามาก็แต่งงานกับนางพราหมณี และใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงพราหมณ์ทั่วไป คือ สวดมนต์ อ่านพระคัมภีร์ สวดมนต์ ละทิ้งความสุขทางโลกทั้งหมด อยู่อย่างสมถะ ทำให้ทุกคนต่างรักและนับถือในตัวของสุทามาเป็นอย่างยิ่ง เขาและนางพราหมณีอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
 
 
จนกระทั่งนางพราหมณีได้ให้กำเนิดลูกสองคน และด้วยความสมถะของทั้งสองทำให้ชีวิตต้องเผชิญกับภาวะยากแค้น จากที่เคยเลี้ยงตนแค่พอกินก็ต้องหาให้ลูก ทำให้อาหารที่มีก็ไม่เพียงพอ ลูกไม่มีเสื้อผ้าใส่ แม้นางพราหมณีจะเทิดทูนการปฎิบัติตนของสามีเยี่ยงใดแต่ก็ไม่คลายกังวลเรื่องลูก
 
จนคืนวันหนึ่งอากาศหนาวมาก นางพราหมณีเห็นลูกทั้งสองไม่มีแม้ผ้าห่มให้ห่มนอน นางจึงเข้าไปคุยกับสามีอย่างอ้อนน้อม ว่า ” ท่านกับพระกฤษณะกษัตริย์แห่งทวารกาเป็นเพื่อนกันใช่หรือไม่? และ พระกฤษณะทรงเข้าพิธีสยุมพรกับพระรุกขมินี ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทวีแห่งความรุ่งเรื่องใช่หรือไม่ ?
 
สุทามาตอบว่า ” ใช่ “
 
นางพราหมณีจึงเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะทำให้ชีวิตครอบครัวจากแล้นแค้นนั้นดียิ่งขึ้น นางเลยบอกสุทามาว่า ทำไมท่านไม่ไปหาพระกฤษณะบ้าง สุทามาเห็นเป็นการดีที่จะได้พบเพื่อนเก่าอย่างพระกฤษณะนั่นทำให้สุทามารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง และพูดออกมาว่า ” เราจะไปหาพระกฤษณะ แต่เราจะไม่ถาม หรือ ขอสิ่งใดๆ จากพระกฤษณะทั้งสิ้น ” แต่กระนั้นนางพราหมณ์มีรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งและกล่าวว่า ” ท่านไม่จำเป็นต้องขออันใดจากพระกฤษณะ นอกจากขอพรให้กับครอบครัวของเราให้ไม่แล้นแค้นให้อยู่อย่างมีความสุขเท่านั้น “
 
ก่อนจะไปกรุงทวารกาสุทามาเดินมาหานางพราหมณีและถามว่า ” เราจะเอาอะไรไปฝากพระกฤษณะดี เราไม่ได้พบกับพระกฤษณะมานานมากแล้วควรจะมีของฝากไปด้วย ” นางพราหมณีจำได้ว่าพระกฤษณะชอบข้าวเม่า จึงได้วิ่งไปหาเพื่อนบ้านขอแบ่งข้าวเม่ามานิดหน่อยแล้วใส่ห่อเล็กๆ จากนั้นสุทามาก็เริ่มออกเดินทาง
 
เมื่อสุทามามาถึงเมืองทวารกาเขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่รโหฐานเขามองผ่านห้องต่างๆ ไปทีละห้องจนกระทั่งเป็นห้องท้องพระโรงของพระกฤษณะและพระรุกขมิณี เมื่อพระกฤษณะเห็นสุทามาจึงเดินเข้ามากอด และพระกฤษณะนั่งลงล้างเท้าให้กับสุทามาด้วยน้ำอุ่นและทาผงจันทน์ให้กับสุทามา
 
 
หลังจากมื้ออาหารพระกฤษณะและสุทามาได้สนทนาแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากแยกทางกัน ทันใดนั้นเองพระกฤษณะสังเกตุเห็นห่อเล็กๆ ที่สุทามาเหน็บไว้ที่ข้างเอว จึงกล่าวว่า ” สุทามาเอาของขวัญมาให้เราหรือ ? ” เมื่อได้ยินดังนั้น สุทามาลังเล และคิดว่า เราจะเอาข้าวตอกอันไร้ค่านี้ให้กับพระราชาได้อย่างไร เมื่อพระกฤษณะเห็นท่าทีละอายของสุทามา พระองค์จึงตรัสว่า ” สุทามา ของขวัญที่คิดว่าไร้ค่าที่สุด แต่ข้าพเจ้าได้รับจากคนที่รักข้าพเจ้าที่สุด ของนั้นมีค่ายิ่งกว่าของขวัญที่มีค่าสุดแต่ได้รับจากคนที่ไม่มีความรักให้กับข้าพเจ้าเลย” เมื่อสุทามาได้ฟังดังนั้นจึงมอบถุงข้าวตอกน้อยๆ นั้นให้กับพระกฤษณะ และขอพรจากพระกฤษณะกับพระรุกขมิณี ให้กับครอบครัวและลูกๆ ของเขาตามที่ปรารถนามาตั้งแต่ต้น เมื่อพระกฤษณะประทานพรเสร็จจึงเปิดถึงข้าวตอกน้อยๆ นั้นออกและเริ่มหยิบกิน โยนใส่ปากอย่างสนุกสนาน จากนั้นเพื่อนเก่าก็เริ่มคุย และคุยกัน อย่างออกรสชาด แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เขาไม่ได้เอ่ยขอทรัพย์สินเงินทอง หรือ สิ่งใดๆ จากพระราชาแม้แต่น้อย
 
เช้าวันถัดมา สุทามาออกเดินทางกลับบ้าน ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนาน เมื่อกลับถึงบ้านก็ต้องประหลาดใจที่เป็นบ้านพักขนาดใหญ่เข้ามาแทนที่กระท่อมหลังน้อยของเขา ภรรยาและลูกน้อยส่วมใส่เสื้อผ้าใหม่และสะอาดออกมาต้อนรับ และนี่คือ ของขวัญที่พระกฤษณะมอบให้สุทามาด้วยความรักเช่นกัน
 
 
หลังจากนั้นมาสุทามาก็ปฎิบัติตนเช่นเดิมที่เคยเป็นมา ยังเคร่งครัดในการปฎิบัติตน สวดมนต์ อ่านพระคัมภีร์เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และครอบครัวของสุทามาก็บูชาพระกฤษณะและพระรุกขมิณีอย่างมีความสุข
 
 
******************************************
 
ขอบคุณที่มา
 
แปลจาก : http://www.indolink.com/kidz/sudhama.html
 
ที่มาภาพ :
 
http://bloggingupthedrainpipe.wordpress.com/2010/09/13/krishna-and-sudama-devotion-and-reciprocation/
 
http://www.vrindavan.de/sudama.htm
 
http://devoteesvaishnava.blogspot.com/2010/03/ato-tv-and-video-samsung-ln46a550-46.html