เกร็ดความรู้ เทวะตำนาน

ศรี โคเปศวร พระศิวะในรูปของโคปี

ศรี โคเปศวร มณเฑียร (श्री गोपेश्वर मंदिर/Sri Gopeshwar Mandir) เป็นหนึ่งในปุณยสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของพระศิวะ อันตั้งอยู่ในวฤนทาวัน (वृन्दावन/Vrindavan) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระกฤษณะ เป็นภูโลก วฤนทาวัน หรือ โคโลก ที่ได้มาตั้งอยู่ในโลกวัตถุนี้ และเป็นสถานที่พระกฤษณะ อวตารลงมาแสดงลีลาในวัยเด็กของพระองค์ พร้อมทั้ง ศรีมตี ราธา รานี อันเป็น หฺลาทินี ศักติ หรือ พลังอำนาจแห่งความสุขทิพย์ของพระองค์ ศรี โคเปศวรนั้นได้รับการบูชาในฐานะ ผู้ประทานเปรมะ ภักติ (การอุทิศตนเสียสละ ด้วยความรักจากใจจริง) เฉกเช่นที่เหล่าโคปีมี โดยเรื่องราวขององค์พระโคเปศวรนั้นมีปรากฏใน ครรคะ สังหิตา อันมีเนื้อความดังต่อไปนี้ ครั้งหนึ่ง เมื่อการร่ายรำมหาราสะ กำลังเริ่มขึ้น พระกฤษณะ (श्रीकृष्ण/Sri Krishna) ทรงเป่าขลุ่ยเพื่อเรียกหาเหล่าโคปิกา ที่มีความรัก และภักดีต่อพระองค์มารวมตัวกันในป่าสวนอันร่มรื่น ของวฤนทาวัน ภายใต้แสงจันทร์ในคืนวันเพ็ญ ฤดูใบไม้ร่วง เพื่อแสดงราสลีลา (การร่ายรำศักดิ์สิทธิ์) ร่วมกับพระองค์ เพื่อตอบสนองต่อการอุทิศตนทางจิตวิญญาณของพวกนาง […]

เทวะตำนาน

พระกฤษณะ

พระกฤษณะเป็นหลานตาของกษัตริย์ ณ มถุรานคร พระกษัตริยมรมพระนามว่าอุคระเสน พระกษัตริย์มีบุตร 2 คน พญากงส์และนางเทวกี นางเทวกีได้สมรสกับพระวสุเทพ ต่อมาพญากงส์กบฎต่อพระบิดา ได้จับพระบิดาอุคระเสนและพี่สาวพี่เขยขังไว้ โหรทำนายว่าบุตรคนที่แปดของนางเทวกีจะฆ่าพญากงส์ พญากงส์จึงฆ่าลูกทุกคนของนางเทวกี หลังจากฆ่าหกคนแรกแล้ว คนที่เจ็ดแท้ง พระกฤษณะเป็นคนที่แปด พระวสุเทพสามารถลักลอบเอาพระกฤษณะไปฝากให้โคบาลชื่อนันทะและนางยโศธาเลี้ยง … ที่มาและกำเนิดพระกฤษณะ …     พระวิษณุเทพ มีหลายภาคหลายอวตาน ซึ่งแต่ละอวตานนั้นพระองค์ลงมาเพื่อช่วยปราบอสูร และยุคเข็ญทั้งหลาย และ มีอยู่อวตานหนึ่งซึ่งพระองค์ถือกำเนิดจากพระวสุเทพ     กำเนิดพระกฤษณะ   พระราชาศูรปกครองชาวสุรเสนในนครมธุรา มีลูกด้วยกันสองคน คนโดเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชายวสุเทพ อีกคนเป้นลูกสาวชื่อเจ้าหญิง กุณตี ท้าวอุรุเสนนั้นมีลูกมากซึ่งลูกที่เป็นรัชทายาทและเกเรมากชื่อว่า ท้าวกังษะ     ตอนหลังได้จับพ่อไปขังและขึ้นครองราชย์แทน ด้วยความที่ท้าวกังษะนั้นค่อนข้างโหดเหี้ยมทารุณกลัวว่าท้าววสุเทพเพื่อนรัก นั้นจะไม่ช่วยเหลือคนในการครองราชย์บ้านเมืองจึงยกน้องสาวชื่อ นางเทวกี ((ท้าวกังษะ มีน้องสาวสองคน คือ นางเทวกีและนางโมหิณี) และก็ได้อยู่ช่วยงานท้าวกังษะ ซึ่งยังความเดือดร้อนแก่คนในเมืองเป็นอย่างมาก ต้องส่งส่วยนมเนยทุกวัน   วันหนึ่งท้าวกังษะกำลังจะออกประภาสป่าก็ได้มีพบพระนารัทมุนีมายืนตัดหน้าแล้วบอกว่า เรามาที่นี่เพื่อจะบอกว่า […]