กาตตะวะรายัน (காத்தவராயன்/Kathavarayan) ท่านเป็นหนึ่งในเทพผู้พิทักษ์ชุมชนของชาวตมิฬ ซึ่งในภาษาตมิฬเรียกว่า กาวัล เดย์วัม (காவல் தெய்வம்/Kaval deivam) หรือ ครามะ เทวตา (ग्रामदेवता/Grama Devata) ในภาษาสันสกฤต แต่ท่านเป็นเพียงเทพผู้พิทักษ์ชุมชน ของบางหมู่บ้านเท่านั้น และไม่เป็นที่แพร่หลายเท่าที่ควร อย่างมุนีศวรัน และกรุปปัณณะซามิที่สักการะกันอย่างแพร่หลาย (ผมเองไปถามชาวตมิฬบางคนก็ไม่รู้จัก ก็มี) กาตตะวะรายัน นับถือเป็นบุตรและผู้อารักขาของพระกามากษี (காமாட்சி/Kamakshi) หรือ พระอุมา ในรูปของเจ้าแม่ต่างๆ ที่เรียกโดยรวมๆว่า อัมมัน […]
Month: January 2024
การปรากฏองค์ของ พระลลิตามพิกา
การปรากฏองค์ของ พระลลิตามพิกา เรื่องราวของพระลลิตามพิกาที่กำลังจะหยิบยกมาแสดงในที่นี้นั้นอ้างอิงเรื่องราวที่ปรากฏใน ลลิโตปาขยานะ (ललितोपाख्यान/Lalitopakhyana) ส่วนหนึ่งของพรหมาณฑะ มหาปุราณะ (ब्रह्माण्ड महापुराण/Brahmanda Mahapurana) โดยกล่าวถึง หลังจากพระศิวะทรงเผาพลาญกามเทพเป็นผงธุลีแล้ว จิตรกรรมะ ผู้เป็นหนึ่งในคณะสาวกขององค์พระศิวะ ได้สรรสร้างเทพบุตรองค์หนึ่งจากกองผงธุลีของกามเทพ ซึ่งเทพบุตรตนนี้ได้รับคำชี้แนะให้บำเพ็ญพรตต่อพระศิวะ เทพบุตรตนนี้จึงบำเพ็ญตบะต่อพระศิวะอย่างอุกฤษ จนกระทั่งพระศิวะพึงพอพระทัยปรากฏองค์ขึ้นเพื่ออำนวยพรตามที่เทพบุตรตนนี้ต้องการ เทพบุตรนี้จึงได้กล่าวขอให้ ผู้ใดที่สู้รบกับตนผู้นั้นจะสูญเสียพลังอำนาจไปกึ่งหนึ่ง พร้อมทั้งมิมีอาวุธใดสามารถผูกมัดตนได้ และตนจะตายด้วยสตรีที่ไม่เกิดจากครรภ์ พระศิวะทรงให้พรตามที่เทพบุตรขอหากแต่ก็ตรัสทิ้งท้ายว่า พรนี้จะคงอยู่เพียงหกหมื่นปีเท่านั้น และทรงอันตรธานหายไป และด้วยความนึกคิดและวิสัยที่ไม่ดีทำให้เทพบุตรตนนี้เป็นอสูรไป พระพรหมาทรงทราบความถึงสิ่งที่เกิดขึ้นทรงสรวลให้กับอสูรที่ไม่ทราบในพรของพระศิวะ จึงตรัสขึ้นว่า ภัณฑะ (भण्ड/Bhanda) […]
มุณฑกกัณณิ อัมมัน
มุณฑกกัณณิ อัมมัน (முண்டககண்ணி அம்மன்/Mundakakanni Amman) เป็นเจ้าแม่ท้องถิ่นองค์หนึ่งในย่านมยิลาปปูร (மயிலாப்பூர்/Mylapore) ของเมืองเชนไน (சென்னை/Chennai) วัดของพระนางมีอายุประมาณ 500-1000ปี มีต้นไทรเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของวัด ตำนานปุณยสถานแห่งนี้ กล่าวถึงโบราณกาลนานมาแล้ว สถานที่แห่งนี้มีสระบัว และต้นไทรเจริญอยู่ข้างสระ อยู่มาวันหนึ่งพระอัมพิกาได้ปรากฏองค์ในรูปแบบสวยมภู (เกิดขึ้นเอง) โดยปรากฏองค์วิคระหะจากปทุมชาติใต้ต้นไทร ด้วยเหตุนี้พระอัมพาจึงทรงมีนามว่า มุณฑกกัณณิ โดยมาจากศัพท์ตมิฬสองคำคือ มุณฑกัม (முண்டகம்/Mundakam) อันหมายถึง ปทุมชาติ และ กัณ (கண்/Kan) อันหมายถึง ดวงนัยน์เนตร […]
Sharada
พระศารทามพา แห่ง ศฤงเคริ (Shree Sharadamba of Shringeri) อันนาม ศารทา (शारदा / ಶಾರದಾ / Sharada) นั้นเป็นนามหนึ่งของพระสรัสวตี อันหมายถึง พระนางผู้ทรงสงบเยือกเย็นดังฤดูศารท (ฤดูใบไม้ร่วง) และเมื่อสนทิกับคำว่า อัมพา (अम्बा / ಅಂಬಾ/Amba) และ อัมพิกา (अम्बिका /ಅಂಬಿಕಾ/Ambika) ซึ่งหมายถึงมารดาแล้วนั้นก็จักได้รูปว่า ศารทามพา (शारदाम्बा […]
พระคายตรี
พระคายตรีนั้นทรงเป็นบุคลาธิษฐานของมนตระ 24พยางค์ในฤคเวท (คายตรี มหามนตระ) ทรงได้รับการนับถือเป็นเทวีแห่งพระเวท,กวีศิลป์,ฉันทลักษณ์ และปัญญาญาณ อีกทั้งทรงเป็นเทวีแห่งยามสนทยา (ช่วงคาบเกี่ยวต่อของวัน คือ รุ่งอรุณ,เที่ยงวัน และยามเย็น) ทรงเป็นเทวีผู้ให้การคุ้มครองแก่เหล่าทวิชะ (ผู้เกิดสองครั้ง คือ ผู้ที่ได้รับการอุปนยนะ คล้องสายยัชโญปวีต อันได้แก่ พราหมณ์,กษัตริย์ และแพศย์) นอกจากนี้พระคายตรี ยังทรงได้รับการนับถือในฐานะพระศักติ หรือ พระชายาของพระวิราฏวิศวกรรม (พรหมา/สทาศิวะ) อีกด้วย พระคายตรี ในยุคพระเวทนั้นถือเป็นองค์เดียว กับ พระสาวิตฤ (พระอาทิตย์องค์หนึ่ง) […]
มทุไร วีรัน
มทุไร วีรัน (மதுரை வீரன்/Madurai Veeran) ทรงเป็นหนึ่งเทพผู้พิทักษ์ชุมชนของชาวตมิฬ หรือ กาวัล เดย์วัม (காவல் தெய்வம்/Kaval Deivam) ในภาษาตมิฬ และ ครามะ เทวตา (ग्रामदेवता/Grama Devata) ในภาษาสันสกฤต ตำนานกล่าวกันว่า ท่านเป็นโอรสของนายกะ องค์หนึ่งในตระกูล อรุนทธิยัร (அருந்ததியர்/Arundhathiyar) แต่จากการทำนายของโหรหลวงว่าโอรสที่กำเนิดมาเป็นอัปมงคล จึงนำท่านไปทิ้งไว้ในป่า ต่อมา นิษาทผู้หนึ่งมาพบเข้าจึงเก็บไปเลี้ยงดังบุตรของตน ให้นามว่า มุธุ […]
ปาวาไฏรายัน
ปาวาไฏรายัน บุตรชายแห่ง อังกาลัมมัน (Pavadairayan The son of Ankalamman) ปาวาไฏรายัน (பாவாடைராயன் / Pavadairayan)นั้น ถือเป็น เทพท้องถิ่น หรือ เทพผู้พิทักษ์หมู่บ้าน และเทพประจำตระกูลองค์หนึ่งของชาวตมิฬ นับถือเป็นบุตรของอังกาลัมมัน ภายในวัดของพระอังกาละ ปรเมศวรี มักมีศาลของ ปาวาไฏรายันอยู่ทุกวัด ตำนานกล่าวถึงครั้งพระศิวะต้องคำสาปของพระสรัสวตี และประสบวิบากกรรมจากการตัดเศียรที่ห้าของพระพรหมา พระศิวะทรงระหกระเหินภิกขาจารไปทุกหนแห่ง จนกระทั่งมาถึงบ้านของ เปตตาณฑะวัน (பெத்தாண்டவன் / Petthandavan) […]
พระแม่กุพชิกา
พระแม่กุพชิกา (कुब्जिका माता/Kubjika Mata) ทรงเป็นรูปปรากฏแห่งพระปราศักติ (पराशक्ति/Parashakti) ผู้เป็นมูลฐานแห่งกิจกรรมทั้งปวงในสกลจักรวาลตามคติตันตระ และ กัศมีร ไศวะ ทรงเป็นพระศักติเองตามที่ระบุในคัมภีร์กุพชิกา ตันตระ อีกทั้งทรงเป็นองค์เดียวกับพระกาเมศวรี (कामेश्वरी/Kameshwari),พระมหากาลี (महाकाली/Mahakali) และ พระกุณฑลินี (कुण्डलिनी/Kundalini) พระแม่กุพชิกา (कुब्जिका/Kubjika) หรือ วักเรศวรี (वक्रेश्वरी/Vakeshwari) ทรงเป็นไจตันยะ ศักติ (พลังแห่งความรู้แจ้ง หรือ การตื่นรู้) หรือ ตัวตนแห่งพระปราศักติเองตามที่ปรากฏในกุพชิกา […]