เทวะตำนาน

กำเนิดพระคเณศ จากคัมภีร์ พรหมไววรรตะ มหาปุราณะ

กำเนิดพระคเณศ ในคัมภีร์ พรหมะไววรรตะ มหาปุราณะ (Brahmavaivarta mahapurana/ब्रह्मवैवर्तमहापुराण )ปรากฏใน คณปติขณฺฑ (Ganapati Khanda/गणपतिखण्ड ) เป็นตอนอันว่าด้วย เทวปกรณัม แห่ง พระคณปติ ผู้เป็นภาคปรากฏอันประเสริฐศรี แห่ง ศรีกฤษณะ ศยามสุนทร ( Shree Krishna Shyamasundara/श्रीकृष्ण श्यामसुन्दर )

เทวปกรณัม คณปติสมภพ ในพรหมะไววรรตะปุราณะ มีอยู่ว่า

หลังจากที่ องค์พระภควานศิวะ (Bhagavan Shiva/भगवान शिव) และ พระแม่ปารวตี (Parvati Mata/पार्वती माता) วิวาห์กันแล้วเนิ้นนาน แต่ก็ยังไม่มีโอรส พระแม่ปารวตี ประสงค์ที่จะได้โอรส วันหนึ่ง พระศิวจึงตรัสแนะนำขึ้นว่า พระเทวีปารวตี ควรประกอบพิธี ปุณยพรต (Punya Vrat/पुण्य व्रत)ขึ้นเพื่อให้ได้มาซึ่งโอรส
โดยพิธีปุณยพรตนั้น มีกำหนดขึ้นหนึ่งปี พระมเหศวรีทรงบำเพ็ญปุณยวรตนี้อยู่หนึ่งปีตามกำหนด ในพิธีนี้ พระนางได้อันเชิญ พระศรีวิษณุ (Shree Vishnu/श्री विष्णु )มาเป็นประทานในพิธี และทรงสำเร็จสมประสงค์ พระเทวีทรงได้พระโอรสตามปรารถนา ซึ่งเป็นภาคแบ่ง แห่ง องค์พระศรีกฤษณะ ( Shree Krishna/श्री कृष्ण ) ผู้เป็นจุดประสงค์ หรือ ผู้รับพิธีนี้
พระศิว และ พระแม่อุมา จึงจัดพิธีรับขวัญโอรสขึ้น ในพิธีนี้ เหล่าเทวะ,เทวี,คนธรรพ์,อัปสร,ยักษ์ อีกทั้งภูต และ รากษส มากมาย ต่างมาร่วมงานพิธี
ท่านทั้งหลายซึ่งมาในพิธีนี้ ต่างเข้ามาทรรศนะ (Darshana/दर्शन ) และอำนวยพร แด่ พระกุมาร มีเพียงพระศนิเทพ (Shani Deva/शनि देव )ที่ประทับอยู่ห่างๆ เพียงก้มพระพักตร์
องค์มเหศวร และ องค์มเหศวรี ต่างทรงแปลประหลาดพระทัย ที่ได้แลเห็น กริยาของ พระศนิเทพ(พระเสาร์) จึงเข้าไปตรัสถาม

พระศนิ ทรงกล่าวตอบว่า การที่ตนมิได้เข้าไปทรรศนะนั้นเพราะ กลัวอำนาจของดวงจักษุของตน จะทำให้เกิดความวิบัติแก่ พระกุมาร

ขอกล่าวในที่นี้ก่อนว่า พระศนินั้น ได้รับการประสาทพร จาก พระวิษณุ หรือ พระศิว ให้มีจักษุที่มองไปยังผู้ใดแล้ว ผู้นั้นจะเกิดความวิบัติ หรือ มีผลกระทบต่อโชคชะตาผู้นั้น นอกจากนี้ยังได้รับพลังอำนาจมากมาย และ แต่งตั้งให้เป็นหนึ่งใน นวเคราะห์

แต่ถึงกระนั้น พระเทวีปารวตี ก็ได้เชิญพระศนิเทว ไปทรรศนะพระกุมาร
เมื่อพระศนิเทพได้ทรรศนะพระกุมาร ปรากฏว่า พระเศียรแห่งพระกุมาร ได้ขาดหลุดจากพระวรกาย หลุดลอยไปยังโคโลก (Goloka/गोलोक ) อันเป็นทิพยสถาน แห่ง พระปรมาตมัน ศรีกฤษณะ
สร้างความโศกเศร้า แก่ พระเทวีปารวตี เป็นอย่างยิ่ง

พระวิษณุทรงทราบความ จึงอาสาไปตามหาศรีษะของสรรพสัตว์ที่นอนหันศรีษะไปทิศเหนือ เพื่อมาชุบชีวิตพระกุมาร แต่มิพบชีวิตใดนอกจาก ลูกของ คชสาร ที่นอนหันไปทิศเหนือ
บัดนั้น พระวิษณุจึงใช้จักรตัดศรีษะคชสารนั้นเสีย และ ทรงไปยัง ณ ไกลาสทิพยสถาน ทันการณ์
เมื่อชุบชีวิตพระกุมารขึ้น เหล่าเทวะ-เทวี ต่างประทานพรมากมายแด่พระกุมาร
โดย พระวิษณุ ทรงประทานพร แห่งการเป็นปฐมบูชา แก่ พระคเณศ

*อัน พรหมะไววรรตะ ปุราณะ นี้ จัดอยู่ใน มหาปุราณะ สิบแปดเล่ม ซึ่งปุราณะนี้ กล่าวสรรเสริญถึงพระศรีกฤษณะ ทรงเป็น พระปรมาตมัน เป็นมูลฐานแห่งจักรวาลทั้งปวง
โดย พระวิษณุ พระพรหม และ พระศิวะ เป็นภาคปรากฏแบ่งแยกของพระองค์ เพื่อขวบคุม ตริคุณ (อำนาจทั้ง 3 ที่ดำเนินความเป็นไปในจักรวาล)
โดย พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ ทรงเป็นภาคโดยตรงของพระองค์ มาขวบคุม สัตวะ อันเป็นคุณสร้างสวรรค์ บริสุทธิ และ มีหน้าที่ปกป้องรักษาจักรวาล

พระพรหม ทรงขวบคุม รัสชะ อันเป็นคุณ แห่ง ตัณหา และ ทรงมีหน้าที่สร้างสรรค์สรรพสิ่ง จากความปรารถนา (ตัณหา)อันเป็นคุณของพระองค์เอง

พระศิวะ ทรงขวบคุม ตมัส อันเป็นคุณ แห่ง อวิชชา และ ทรงมีหน้าที่ทำลายล้าง เมื่ออวิชชา ถึงขีดจำกัด

พรหมะไววรรตะ ปุราณะนี้มีด้วยกัน สี่ขัณฑะ (ตอน)อันคณปติ ขัณฑะ เป็น ขัณฑะ ที่สาม กล่าวถึง เทวปกรณัม แห่ง พระคณปติ ผู้เป็นภาคแบ่งแยก จาก ศรีกฤษณะ

พฺรหฺมไววรฺตปุราณ นี้ กล่าวถึง การเป็นไปของจักรวาล คือ การเปลี่ยนแปลงของพรหม ซึ่งไม่ใช่ใครอื่น คือ ศรีกฤษณะ

เรียบเรียงนำเสนอ โดย มุรุเกศัน เทวี อุปาสกะ
(กิตติกร อินทรักษา)