ชคัทคุรุ ศังกร ชนมะ รหัสยะ
เมื่อ 1,322 ปีก่อน เมื่อครั้นศีลธรรมเสื่อมลง อีกทั้งคัมภีร์และหลักคำสอนทางศาสนาต่างๆถูกบิดเบือน เหล่าเศราตะพราหมณ์ (พราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในศรุติ คือพระเวท และอุปนิษัท หรือเวทานตะ อันเป็นคัมภีร์ชั้นต้น) และสมารตะพราหมณ์ (พราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในคัมภีร์สมฤติ คือ ปุราณะ และวรรณกรรมทางศาสนาต่างๆ อันเป็นคัมภีร์ชั้นรอง) ต่างเสื่อมโทรมลง เหล่าลัทธินอกระบบไวทิกะเจริญขึ้น เหล่าทวยเทพ แลฤๅษีมุนี ต่างพากันเข้าเฝ้ากราบทูลความแก่ พระศรีทักษิณามูรติ (श्री दक्षिणामूर्ति/Shri Dakshinamurti) อันทรงเป็นรูปปรากฏแห่งองค์พระศิวศังกร ในฐานะปรมคุรุ (บรมครู) อีกทั้งอาราธนาให้เสด็จอวตารลงไปเพื่อฟื้นฟูธรรมะ และจารีตต่างๆ
พระองค์ทรงตอบรับคำอาราธนานั้น ขณะเดียวกัน ในภูโลก (พื้นพิภพที่เราอาศัยอยู่) ณ หมูบ้านกลาฑี แคว้นเจระ (ปัจจุบันคือ รัฐเกรละ) มีสองสามี ภรรยาใวรรณะพราหมณ์นัมบูติรี(นัมบูติรี เป็นวรรณะพราหมณ์ของชาวมลยาลิ)คู่หนึ่ง นามว่า ศิวคุรุ (शिवगुरु/ശിവഗുരു/Shivaguru) และ อารยามพา (आर्याम्बा/ആര്യാംബാ/Aryamba) เป็นผู้ภักดียิ่งต่อพระศังกร ดำรงตนอยู่อย่างสมถะ แต่พวกท่านกำลังทุกข์ใจอยู่กับการไร้ซึ่งบุตรสืบทอดสกุล จึงทำการภาวนาขอต่อพระวฏักกุนาถ (ശ്രീ വടക്കുനാഥ/Shri Vadakkunatha) หรือ พระศิวะ แห่ง มโหทยปุรัม (ชื่อเมือง ตฤศศูร ในสมัยนั้น)(เป็นหนึ่งในเทวสถานอันศักดิ์สิทธิ์ในเกรละ) โดยทั้งสองได้กระทำการบูชา และภาวนาต่อพระวฏักกุนาถ ถึง48วันด้วยกัน และในคืนหนึ่งพระศิวะได้ทรงเสด็จมาในนิมิตของศิวคุรุ ทรงตรัสว่า จักประทานบุตรแก่ทั้งสอง โดยให้เลือกระหว่างบุตรที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ แต่อายุสั้น กับ บุตรที่เป็นดังปุถุชนทั่วไป ศิวคุรุได้ทูลตอบแก่พระศิวะไปว่า ตนนั้นปรารถนาบุตรที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ แต่อายุสั้นนั้น พระอาศุโตษทรงพึงพอพระทัยต่อคำขอนั้นและประทานให้ตามประสงค์แล้วอันตรธานหายไปจากนิมิตนั้น บัดนั้นแล พระทักษิณามูรติ จึงอวตารมาในครรภ์ของอารยามพา และถือกำเนิดอุบัติขึ้นในปัญจมี ศุกลปักษ์ เดือนไวศาขะ (ขึ้น5คำ เดือน2 ตามปฏิทินฮินดู) ในยามเที่ยงวัน เมื่อดาวนักษัตรอนุราธาปรากฏขึ้นในยามนั้น
กุมารนั้นได้นามว่า ศังกระ (शङ्कर/ശങ്കര/Shankara) อันเป็นนามหนึ่งของพระศิวะ หมายถึง ผู้เป็นมงคล,ผู้กระทำซึ่งความเจริญรุ่งเรือง,ผู้มีความกรุณา เป็นเด็กที่พัฒนาและเรียนรู้ได้เร็ว ศิวคุรุมีควาปรารถที่จักทำพิธีอุปนยนะ (พิธีเริ่มการศึกษา) ให้แก่กุมารศังกระเมื่อกุมารนั้นมีอายุ5ปี แต่ในปีที่3 ศิวคุรุก็ได้ละสังขารไป มีเพียงอารยามพา ผู้ทำการเลี้ยงดูและสั่งสอนกุมารศังกระ ผู้มีอนาคตเป็นสันยาสี นักปราชญ์ผู้มีชื่อเสียงผู้หนึ่งในโลก เป็นมหาบุรุษผู้ได้รับการสรรเสริญเป็นชคัต คุรุ (ครูของโลก/ครูของปวงชน)
และนี้แลคือเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับการกำเนิดขึ้น ของ มหาบุรุษแห่งยุค ชคัทคุรุ ศรี อาทิ ศังกราจารย์.