เทวะตำนาน

พระกฤษณะ

พระกฤษณะเป็นหลานตาของกษัตริย์ ณ มถุรานคร พระกษัตริยมรมพระนามว่าอุคระเสน พระกษัตริย์มีบุตร 2 คน พญากงส์และนางเทวกี นางเทวกีได้สมรสกับพระวสุเทพ ต่อมาพญากงส์กบฎต่อพระบิดา ได้จับพระบิดาอุคระเสนและพี่สาวพี่เขยขังไว้ โหรทำนายว่าบุตรคนที่แปดของนางเทวกีจะฆ่าพญากงส์ พญากงส์จึงฆ่าลูกทุกคนของนางเทวกี หลังจากฆ่าหกคนแรกแล้ว คนที่เจ็ดแท้ง พระกฤษณะเป็นคนที่แปด พระวสุเทพสามารถลักลอบเอาพระกฤษณะไปฝากให้โคบาลชื่อนันทะและนางยโศธาเลี้ยง

… ที่มาและกำเนิดพระกฤษณะ …
 
 
พระวิษณุเทพ มีหลายภาคหลายอวตาน ซึ่งแต่ละอวตานนั้นพระองค์ลงมาเพื่อช่วยปราบอสูร และยุคเข็ญทั้งหลาย และ มีอยู่อวตานหนึ่งซึ่งพระองค์ถือกำเนิดจากพระวสุเทพ
 
 
กำเนิดพระกฤษณะ
 
พระราชาศูรปกครองชาวสุรเสนในนครมธุรา มีลูกด้วยกันสองคน คนโดเป็นผู้ชายชื่อเจ้าชายวสุเทพ อีกคนเป้นลูกสาวชื่อเจ้าหญิง กุณตี ท้าวอุรุเสนนั้นมีลูกมากซึ่งลูกที่เป็นรัชทายาทและเกเรมากชื่อว่า ท้าวกังษะ
 
 
ตอนหลังได้จับพ่อไปขังและขึ้นครองราชย์แทน ด้วยความที่ท้าวกังษะนั้นค่อนข้างโหดเหี้ยมทารุณกลัวว่าท้าววสุเทพเพื่อนรัก นั้นจะไม่ช่วยเหลือคนในการครองราชย์บ้านเมืองจึงยกน้องสาวชื่อ นางเทวกี ((ท้าวกังษะ มีน้องสาวสองคน คือ นางเทวกีและนางโมหิณี) และก็ได้อยู่ช่วยงานท้าวกังษะ ซึ่งยังความเดือดร้อนแก่คนในเมืองเป็นอย่างมาก ต้องส่งส่วยนมเนยทุกวัน
 
วันหนึ่งท้าวกังษะกำลังจะออกประภาสป่าก็ได้มีพบพระนารัทมุนีมายืนตัดหน้าแล้วบอกว่า เรามาที่นี่เพื่อจะบอกว่า ” ลูกชายคนที่ 8 ของท้าววสุเทพที่เกิดกับพระนางเทวกีน้องสาวของท่านจะเป็นคนฆ่าท่าน “
 
 
พอท้าวกังษะได้ยินดั่งนั่นก็ได้เกิดวิตกจึงได้สั่งให้จับท้าววสุเทพกับพระนาง เทวกี ขังคุกด้วยกัน พอสองคนอยู่ด้วยกันในคุกปีแรกก็ได้ให้กำเนิดลูกชายท้าวกังษะจึงสั่งให้เอาลูกชายนั้นไปฆ่าทิ้ง แต่ท้าวกังษะมิได้สนใจว่าเป็นบุตรคนใด ถ้าออกมาเป็นชายและเป็นลูกของพระนางเทวกี กับ ท้าววสุเทพก็จับฆ่าซะหมด
 
จนกระทั่งถึงคนที่ 7 พระนางเทวกีก็กำลังจะออกลูกพระนางโมหิณีซึ่งเป้นพี่สาวก็ได้เสด็จมาที่คุก แล้วบอกว่าลูกคนที่ 7 นี้เราจะเอาไปเลี้ยงเองแล้วก็เอาเด็กคนอื่นไปให้ท้าวกังษะฆ่าทิ้งแทน ซึ่งลูกคนที่ 7 นี้ชื่อว่า พลราม เป็นพี่ชายของพระกฤษณะเมื่อเวลาผ่าน ไปพระนางเทวกีเริ่มท้องอ่อนๆ ท้าวกังษะก็สั่งให้ควบคุมอย่างเข้มแข้ง ในระหว่างนั้น ท้าววสุเทพก็ได้แอบติดต่อกับเพื่อนซึ่งเป้นคนเลี้ยงวัวจากในคุก ซึ่งเพื่อนคนนี้ชื่อว่า นันทะ แล้วนันทะนี้ก็มีเมียชื่อ ยโสธารา ซึ่งได้แต่งงานและกำลังตั้งท้องในเวลาไล่เลี่ยกันในคืนที่กระนางเทวกีคลอด ลูกคนที่ 8 ออกมา
 
ฝนตกหนัก ประตูคุกที่เคยปิดก็เปิดออกโซ่ตรวนที่เคยมีก็หลุดลง ท้าววสุเทพก็จึงได้แอบออกมาหา นันทะที่เมืองโกกุนซึ่งอยู่ติดๆกัน แต่อนิจจาฝนตกหนักน้ำในแม่น้ำยมุนาก็หนุนขึ้นสูง ท้าววสุเทพซึ่งลุยน้ำแบบจวนเจียนที่จะจมเต็มทีน้ำจากแม่น้ำที่ขึ้นสูงจนถูก ตัวลูกของท้าววสุเทพปุ๊บก็ได้เกิดอัศจรรย์คือน้ำได้ลดระดับลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีงูใหญ่มาบังเด็กจากฝนที่ตกหนัก
 
 
 
ท้าววสุเทพจึงเดินทางได้สะดวกขึ้นครั้นพอเมื่อวสุเทพมาถึงบ้านของนันทะเมียของ นันทะเองก็เพิ่งจะคลอดลูกสาวออก นันทะจึงบอกให้ท้าววสุเทพเปลี่ยนตัวลูกกัน ลูกของท้าววสุเทพนันทะก็ได้เอาไปเลี้ยง ส่วนลูกสาวของนันทะนั้นก็ถูกพากลับไปสู่คุก
 
 
พอท้าววสุเทพทราบว่าพระนาง เทวกีคลอดเรียบร้อยแล้วท้าวกังษะก็ได้เดินทางมายังคุกหมายจะฆ่าลูกชายคนที่ 8 แต่ก็ต้องแปลกใจว่าพระนางเทวกีนั้นคลอดลูกออกมาเป็นผู้หญิงใจหนึ่งก็ดีใจว่า คำสาปของฤาษีนั้นคงจะไม่เป้นจริงเพราะลูกที่เกิดมาเป็นผู้หญิง แต่เพื่อความแน่ใจท้าวกังษะก็หมายจะฆ่าเด็กผู้หญิงคนนี้ทิ้งเสีย กำลังเงื้อดาบอยู่นั้นเองก็ได้มีเสียงร้องจากอากาศมาว่า ” อย่า….. ” ท้าวกังษะตกใจผลันโยนเด็กน้อยขึ้นบนฟ้าพลันนั้นเด็กน้อยก็ได้หายวับไปกับตา ท้าวกังษะก็ค่อยปลงใจเพราะคิดว่าคำสาปคงจะไม่เป้นจริงแล้ว แต่เพื่อความมั่นใจก็สั่งให้ฆ่าทารกเพศชายที่เกิดในวันนี้ทั้งเมือง
 
 
 
เด็กชายเติบโตในหมู่บ้านที่อยู่นอกเมือง รอดตายมาได้ ชื่อว่า กรรณหา เติบโตอยู่ในหมู่บ้านโกกุน มีลักษณะแปลกเด็กคือเป้นเด็กขี้เล่นร่าเริง หน้าตาดี เป่าขลุ่ยได้ทั้งวันยังความเอ็นดูแก่คนอื่นที่พบเห็น และมีเรื่องหน้าแปลกว่าถ้ากรรณหา (หรือพระกฤษณะ) ลักขโมยกินนมเนยและเอามาเผื่อแผ่เด็กกลุ่มเดียวกันจากบ้านไหน วัวบ้านนั้นจะให้น้ำนมมากกว่าเดิม พอชาวบ้านเรื่องชาวบ้านก็เลยออกอุบายบอกใบ้ที่เก็บนมและเนยในบ้านตนเพื่อให้ กรรณหามาลักไปแจกเด็กๆในหมู่บ้านเพื่อที่วัวของตนจะให้น้ำนมมากขึ้น
 
 
 
พระกฤษณะก็ได้อยู่ในหมุ่บ้านนี้ได้ 11 ปีจนมาวันหนึ่ง ได้พบเห็นการถวายนมเนยแก่พระอินทร์ กรรณหาก็แปลกใจและถามว่า ” เหตุใดจึงต้องบูชาพระอินทร์ด้วยเล่า พระองค์ไม่เห็นทำอะไรเลย ทำไมไม่บูชาวัว ซึ่งให้นมและเนยกับพวกเรา ทำไม่บูชาหญ้าซึ่งเป้นอาหารของวัว หรือทำไมไม่บูชาภูเขาโควัฒนะ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดความร่มรื่นและป่าไม้ควาอุดมสมบูรณ์แก่หมู่บ้าน “
พระ อินทร์เมื่อได้ยินดังนั้นก็ เกิดโมโห จึงสาปให้ฝนตก 7 วัน 7 คืน พระกฤษณะก็จึงแสดงปาฎิหารย์ด้วยการใช้นิ้วเดียวยกภูเขาโควัฒนะขึ้นมาบังท้อง ฟ้าเอาไว้ ถึงฝนจะตกแต่หมู่บ้านก็เสียหายน้อยลง
 
 
จนพระอินทร์นั้นยอมแพ้และมาทราบภายหลังว่ากรรณหานั้นคือพระนารายณ์อวตารลงมา เกิดเป็นพระกฤษณะ จึงได้ขอขมาหลังจากที่แสดงอิทธิฤทธิ์แล้ว กฤษณะจึงบอกกับชาวบ้านไปว่า ต่อจากนี้ไปไม่ต้องส่งส่วยนมเนยไปให้ท้าวกังษะแล้ว
ครั้นพอท้าวกังษะ ทราบเรื่องว่าเมืองโกกุนนำโดยพระกฤษณะนั้นแข็งข้อและทราบว่าพระกฤษณะนั้น เป็นหลานคนที่ 8 ที่เล็ดรอดหนีไปได้ ท้าวกังษะจึงได้ทำกลอุบายให้ไปเชิญมายังเมือง โดยระหว่างที่พระกฤษณะติดตามข้าราชบริพานของท้าวกังษะกลับมายังเมืองนั้น ท้าวกังษะได้ปล่อยอสูรและสัตว์ร้ายมากมาย มาหมายจะฆ่าพระกฤษณะ แต่พระกฤษณะกลับฆ่าอสูรทั้งหลายตายเสียหมดสิ้น พอพระกฤษณะเข้ามายังเมืองก็ได้เจอกับท้าวกังษะและได้ต่อสู้กับท้าวกังษะ เมื่อพระกฤษณะฆ่าท้าวกังษะผู้เป็นลุงแล้วประชาชนก็ยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่ง พระกฤษณะกับพลรามพี่ชายก็รีบไปที่คุกและปล่อยพระเจ้าตา คือท้าวอุรุเสน พ่อซึ่งก็คือท้าววสุเทพและแม่คือพระนางเทวกีแล้วก็เชิญท้าวอุรุเสนผู้เป็นตา ขึ้นครองราชย์ต่อไป
 
 

 
พระกฤษณะนั้นก็ได้ออกเดินทางไปร่ำเรียนวิชา และผจญภัยอยู่จนกระทั่งโตเป็นหนุ่มและได้กลับมาที่เมืองต่อมาได้เกลี้ยกล่อม ให้ย้ายเมืองจากที่เดิมไปตั้งรกรากใหม่ ชื่อว่า ทวารกา
 
****************************************
 
 
ในช่วงชีวิตทั้งหมดของพระกฤษณะได้ทรงต่อสู้กับอสูรมากมายที่กังสะส่งมาที่สำคัญๆ มีดังนี้
 
( 1 ) อสูรปุตน – ได้แปลงเป็นสตรีมาให้นมพระกฤษณะ ในขณะทรงพระเยาวน์ แต่พระกฤษณะทรงทราบเสียก่อน จึงดูดนมปุตนจนหมดตัวสิ้นชีวิตไปในที่สุด
 
 
( 2 ) ตรีนะวัตระ – อสูรตนนี้มีฤทธิ์ที่สามารถทำให้เกิดพายุได้ และอสูรตนนี้ได้พัดพาเอาพระกฤษณะขึ้นสู่ฟ้าสูงขึ้นเรื่อยๆ พระกฤษณะทรงสนุกกับการเล่นลม อสูรหัวเราะพอใจว่าทีนี้เราจะทุ่มพระกฤษณะลงพื้นให้ตายก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่พระกฤษณะรู้ทันจึงได้บันดาลพระองค์ให้ตัวหนักขึ้นๆ จนสุดท้ายอสูรรับน้ำหนักไม่ไหว หล่นสู่พื้นปฐพีในที่สุด
 
 
( 3 ) บากาสูร – อสูรตนนี้มีลักษณะเป็นนกขนาดใหญ่ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อพระกฤษณะทรงเล่นอยู่กับเพื่อน เพื่อนหิวน้ำจึงไปที่ลำธารเห็นนกขนาดใหญ่จึงวิ่งกลับมาบอกพระกฤษณะ จึงพากันไปดู พระกฤษณะทราบทันทีว่าเป็นอสูร เพราะคงไม่มีนกที่ไหนตัวจะใหญ่ได้เท่านี้ จึงได้เข้าไปใกล้ ขณะนั้นเองบากาสูรได้เอาจะงอยปากใหญ่โตคาบพระกฤษณะ พระกฤษณะทำพระองค์เองให้ร้อนจนนกต้องปล่อยออกจากจะงอยปาก และ ขณะนั้นเองพระกฤษณะเอามือข้างนึงง้างปากด้านบน ส่วนเท้ายันจะงอยปากด้านล่างไว้ จนท้ายที่สุดบากาสูรก็สิ้นฤทธิ์ตายในที่สุด
 
 
( 4 ) อักราสูร – อสูรตนนี้แปลงร่างเป็นงู อ้าปากกว้างให้เมือนลักษณะเป็นถ้ำ เพื่อนของพระกฤษณะ และเหล่าวัวทั้งหลายเดินเล่นเข้าไปในถ้ำ เมื่อพระกฤษณะเข้าไปในถ้ำเป็นคนสุดท้าย อักราสูรก็ปิดปากตนทันที เหล่าเพื่อนพระกฤษณะต่างร้องไห้ด้วยความกลัว พระกฤษณะจึงได้ทำการฉีกร่างงูบริเวณลูกตา แล้วให้เพื่อนๆ และวัวออกมา เป็นอันว่า อักราสูรตายในที่สุด
 
 
( 5 ) นาคกาลิยะ วันหนึ่งเหล่าเพื่อนๆ พระกฤษณะเล่นลูกบอลกันอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา แต่พระกฤษณะตีลูกบอลแรงไปหน่อย เลยตกลงไปยังแม่น้ำยมุนา เมื่อพระองค์เป็นคนทำ พระองค์ก็ต้องเป็นคนไปเก็บ แต่เท่าที่ทราบน้ำในแม่น้ำยมุนาขณะนั้นเป็นพิษ เพราะนาคกาลิยะที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ เพื่อนๆ ต่างห้ามไม่ให้ลงไปเก็บแต่พระกฤษณะกลับตรงเข้าไปเก็บลูกบอลทันที เมื่อนาคกาลิยะเห็นพระกฤษณะลงมาในน้ำที่ตนเองอาศัยอยู่จึงตรงเข้ารัดพระกฤษณะ แต่รัดอย่างไรพระกฤษณะก็ไม่ตาย จนกระทั่งหมดแรง พระกฤษณะเลยแกะขนดที่รัดพระองค์ออก แล้วเหวี่ยงนาคกาลิยะ แต่นาคกาลิยะก็ต่อสู้จนสุดฤทธิ์จนท้ายที่สุดพระกฤษณะกระโดดขึ้นไปบนหัว เอาพระบาทกระทืบหลายครั้งจนนาคกาลิยะเจ็บปวดจนกระอักเลือด เหล่ามเหสีของนาคกาลิยะเห็นและทราบว่าพระกฤษณะคือพระวิษณุอวตานจึงได้มาขอให้พระองค์งดเว้นโทษตายแก่สามีนางเสีย พระกฤษณะให้โอวาสและ ให้นาคกาลิยะเลิกทำพิษใส่แม่น้ำยมุนา.
 
 
( 6 ) อสูรเดนุกา – มีลักษณะเป็นลา พระพลรามได้ไปเก็บผลไม้กับเพื่อนเลี้ยงโค และได้เขย่าต้นไม้ให้ผลไม้ร่วงทำให้เสียงไปรบกวนอสูรเดนุกา เมื่อเป็นเช่นนั้น อสูรเดนุกาจึงได้ตรงเข้ามาหมายฆ่าพระพลราม แต่พระพลรามได้จับอสูรเดนุกาเหวี่ยงไปรอบๆ ชนกับต้นไม้ตายในที่สุด ส่วนพระกฤษณะได้จับพลพรรคอสูรเหวี่ยงตายเป็นจำนวนมาก
 
 
 
( 7 ) อริตสูร – มีลัษณะเป็นวัวกระทิง
 
 
 
 
( 8 ) วัตสาสูร – มีลักษณะเป็นวัว แล้วแปลกปลอมเข้าไปในฝูงวัวที่พระกฤษณะเลี้ยง สุดท้ายโดนจับเหวี่ยง โดยการจับหางด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งจับขา แล้วเหวี่ยงขึ้นต้นไม้สิ้นชีวิต
 
 
 
 
( 9 ) เกสีสูร – มีลักษณะเป็นม้า
 
 
( 10 ) วยมาสูร – ครั้งหนึ่งพระกฤษณะและเพื่อนกำลังเล่นซ่อนหา พอดีกับวยมาสูรเหาะผ่านมา เมื่อเห็นเช่นนั้น จึงได้แปลงกายเป็นเด็กเข้าไปเล่นด้วย แต่ของที่วยมาสูรซ่อนกลับไม่ใช่ของ หรือ ลูกวัว แต่กลับเป็นเพื่อนของพระกฤษณะ โดยเอาเพื่อนของพระกฤษณะไปซ่อนเก็บไว้ในถ้ำแล้วเอาหินปิดทับปากถ้ำไว้ เมื่อพระกฤษณะรู้จึงตามไปที่ถ้ำ วยมาสูรจึงแปลงกายกลับเป็นขนาดใหญ่เช่นเดิมและหมายจะสังหารพระกฤษณะและเพื่อนทั้งหมด แต่ก็โดนพระกฤษณะจับทุ่มจนถึงแก่ความตาย
 
 
 
**********************
 
 
แหล่งที่มา
 
ข้อมูลกำเนิดพระกฤษณะบางส่วน – bloggang ของคุณ vet 53
 
แหล่งข้อมูลภาพ
http://www.naturemagics.com, http://www.vengadesa.com/avatharam, http://radhakrishnalovers.blogspot.com/2010/08/puthana-vadh-krishna-klls-witch-puthana.html,http://indianmythologytales.blogspot.com/2009/02/krishna-leela-part-4.html, http://www.vaishnavsongs.com/arista-trasitasesa-vrajasvasaka/, http://www.glimpseofkrishna.com/individual/vwoma.htm
 
ขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ ครับ