เกร็ดความรู้ เทวะตำนาน

พระอังกาละ ปรเมศวรี แห่ง เมลมไลยะนูร

พระอังกาละ ปรเมศวรี แห่ง เมลมไลยะนูร (Ankala Parameshwari of Melmalaiyanoor)
อังกาละ ปรเมศวรี (Ankala Parameshwari/அங்காள பரமேஸ்வரி),อังกาลัมมา (Ankalammaa/அங்காளம்மா),อังกาลัมมัน (அங்காளம்மன் / Ankalamman),อังกาลิ (Ankali / அங்காளி) หรือ อังกาลัมมะ (Ankalamma / అంకాలమ్మ / ಅಂಕಾಲಮ್ಮ) ในสำเนียงภาษาเตลุคุ และกันนฑะ และ อังกัมมะ (Ankamma / అంకమ్మ ของชาวเตลุคุ) ทรงเป็นเจ้าแม่ท้องถิ่น หรือครามะเทวตา(เทพผู้พิทักษ์หมู่บ้าน)ที่ผนวกเป็นอวตารภาคหนึ่งของ พระศักติ หรือ พระแม่อุมา ทรงเป็นที่สักการะนับถือในตมิฬนาฑุ,กรรนาฏกะ,อานธรประเทศ และบางส่วนของรัฐเตลังคณะ ทางตอนใต้ของอินเดีย แต่เทวสถานที่มีชื่อเสียงสุดของพระนาง อยู่ที่เมลมไลยะนูร (Melmalaiyanoor / மேல்மலையனூர்) ในเขตติรุวัณณามะไล (Thiruvannamalai / திருவண்ணாமலை) ของรัฐตมิฬนาฑุ อินเดียตอนใต้
ตำนานของเทวสถาน กล่าวถึงครั้งพระพรหมาทรงกระทำยัชญะ ก่อเกิดนางอัปสรนาม ติโลตมา จากกองกูณฑ์พิธียัชญะนั้น นางอัปสรติโลตมานั้นสง่างามมาก แม้แต่พระพรหมายังทรงหลงใหล พระพรหมาคอยแลมองนางติโลตมาจนต้องเนรมิตเศียรที่ห้าในทิศเบื้องบนเพื่อคอยทอดพระเนตรมองนางติโลตมา วันหนึ่งนางอัปสรติโลตมาได้เดินทางไปยังขุนเขาไกลาศ พระพรหมาทราบเช่นนั้นจึงติดตามนางไปยังไกลาศ
ณ ขุนเขาไกลาศพระนางปารวตี แลเห็นพระพรหมาทรงมีห้าเศียรเหมือนพระศิวเจ้าผู้พระสวามีก็เข้าพระทัยผิด คิดว่าเป็นพระศิวะเจ้า ไกลาศนาถ จึงกราบบูชาที่เบื้องบาทของพระพรหมา ด้วยทรงคิดว่าเป็นบดีแห่งตน ภายหลังพระนางได้ทราบถึงความจริง ทรงอับอายเป็นอย่างยิ่ง จึงกราบทูลต่อพระศิวะผู้บดีว่า ควรกำจัดเศียรที่ห้าของพระพรหมาเสีย
พระศิวะ จึงเข้าต่อสู้กับพระพรหมา และทรงตัดเศียรที่ห้าของพระพรหมา แต่พระพรหมาก็เนรมิตเศียรใหม่นั้นขึ้นมาเสมอถึง 999ครั้งด้วยกัน พระศิวะทรงตัดเศียรเหล่านั้นมาทำเป็นพวงมาลัย และทรงตัดเศียรที่เนรมิตขึ้นมาใหม่อีกหนึ่ง และทรงยืนยันที่จะให้พระพรหมามีแค่สี่พักตร์ตามคำขอของพระแม่ปารวตี พระพรหมาจึงทรงทำตามที่พระศิวะ และ พระแม่อุมาปรารถนา
ความทราบไปถึงพระแม่สรัสวตี ชายาแห่งพระพรหมา ทรงโกรธกริ้วเป็นอย่างยิ่ง ทรงกล่าวคำสาปให้พระศิวะ ต้องทรงระหกระเหินไปทุกหนแห่งไปกับเศียรพรหมที่ติดในพระหัตถ์ และทรงหิวโหย ต้องทรงอยู่ด้วยการภิกขาจาร แต่โภชนาที่ได้รับมาเศียรพระพรหมาที่ติดอยู่ในพระกรของพระองค์จะกลายเป็นมารร้ายคอยแย่งชิงโภชนานั้น และโหยหิวจนต้องดับความหิวด้วยเถ้ากระดูกเพียงสามกำมือเท่านั้น ส่วนพระแม่ปารวตี พระแม่สรัสวตี ทรงสาปให้พระนางอยู่ในรูปที่น่าสะพรึงกลัว แต่ตัวอย่างชาวเผ่า มีบริวารเป็นภูตผี
พระโยเคศวร ศิวะมหาเทพ จึงต้องระหกระเหินตามคำสาปนั้น ทรงดำรงอยู่ได้เพียงเถ้ากระดูกเล็กน้อย และการภิกขาจาร ซึ่งอาหารที่ได้จากการภิกขาจาร กปาละ หรือ เศียรพระพรหมาที่ติดอยู่กับพระกรพระองค์ดังเจ้ากรรมนายเวร ก็จะคอยแย่งทานจนหมด
ส่วนพระแม่อุมา ผู้งดงามยิ่งบัดนี้ได้ตกอยู่ในรูปที่น่าเกลียดน่ากลัวตามคำสาปพระสรัสวตี พระนารายณ์ทราบความสิ่งที่บังเกิดขึ้นกับพระขนิษฐาจึงปรากฏองค์มากล่าวปลอบพระทัยพระนาง และทรงตรัสว่า คำสาปจะสิ้นสุดลงและได้ประทับอยู่กับพระศิวะอีกครั้งเมื่อพระนางได้ไปชดใช้กรรมในพื้นปฐพีโลกและปรากฏรูปนาคินี ที่ เมลมไลยะนูร
พระศิวะปริยา จึงระหกระเหินในพื้นปฐพีโลก พระเทวีทรงพบกับ พระกปิละมุนี ที่ติรุวัณณามะไล และทรงได้สรงสนาน ณ พรหมตีรถะ พระนางจึงหลุดพ้นจากคำสาปของพระสรัสวตี
ณ เมลมไลยะนูร พระนางทรงแสดงทิพยลีลาต่อ ชาวประมง และ ทรงปรากฏองค์ให้ชาวประมงเห็น ในรูปของนาคินีห้าเศียร ทรงสถิตภายในจอมปลวกในเขตสถานของเจ้าเมือง โดยให้ครอบครัวชาวประมงเป็นปูจารีกระทำบูชาต่อพระนางในทุกวันๆ หากครอบครัวชาวประมงทำตามที่พระนางขอก็จักคุ้มครองช่วยเหลือครอบครัวของชาวประมง ชาวประมงจึงเลื่อมใสศรัทธาในพระเทวี จึงปฏิบัติบูชาต่อพระเทวีในรูปนาคินีตามที่พระนางปรารถนา
ความทราบถึงเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงเสด็จมาที่ศาลเจ้า เมื่อแลเห็นศาลจอมปลวกในอุทยานก็ทรงกริ้ว ทรงใช้ผลกำลังเพื่อทำลายจอมปลวก อังกาลัมมัน จึงปรากฏให้เจ้าเมืองได้ทรรศนะ เจ้าเมืองได้ทรรศนะ พระอังกาลัมมัน ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธาจึงถวายที่ดินเพื่อสร้างเทวสถาน
ต่อมา พระโยเคศวร ทรงระหกระเหินมาถึงเมลมไลยะนูร และได้มาขออาหารที่เทวสถานพระอังกาลัมมันนี้ เมื่อพระนางทรงทราบถึงการมาของ พระโยเคศวรก็ทรงปิติยิ่ง ทรงระลึกถึงพระนารายณ์ผู้เชษฐา พระนารายณ์จึงปรากฏขึ้นเบื้องพระพักตร์ของ พระเทวี พระเทวีได้ทรงขอคำปรึกษาหนทางการหลุดพ้นจากวิบากกรรมนี้จากพระนารายณ์ พระนารายณ์จึงให้เทวีจัดโภชนาเป็นสามส่วน สองส่วนถวายแด่พระโยเคศวร และ กปาละ อีกส่วนให้ทำหล่นดังเป็นอุบัติเหตุมิได้เจตนา เมื่อกปาละลงมาเพื่อมาแย่งชินโภชนานั้น ให้พระเทวีปรากฏรูปร่างใหญ่โตเหยีบกปาละนั้นไว้ใต้เบื้องบาท พระศิวะจึงหลุดพ้นจากคำสาป และได้แนะนำพระลักษมี และแม่โคสารพัดนึกสุรภี ในการช่วยเหลือจัดเตรียมโภชนาอันเลิศรส
พระเทวีจึงจัดเตรียมโภชนาอันเลิศรสสามส่วนนั้น และอันเชิญพระคณปติเป็นผู้ช่วยในการรับใช้ให้ความสะดวกสบายแก่พระศิวโยเคศวร เมื่อพระเทวีถวายโภชนาตามแผน โภชนาที่หล่นไปกปาละได้เข้ามาช่วงชิง พระเทวีจึงใช้พระบาทกดเหยีบไว้และให้เป็นบริวารของพระองค์
พระเทวี กับ พระศิวะ จึงหลุดพ้นจากวิบากกรรม จากการทำร้ายพระพรหม และกลับอยู่ร่วมกันอีกครั้ง พระเทวีได้ให้พรจักสถิต ณ เมลมไลยะนูร ในนาม อังกาละ ปรเมศวรี เพื่ออำนวยพรและพิทักษ์สาวกในพื้นปฐพีจากยุคเข็ญ.
มนตระ
ஓம் அங்காளம்மனே போற்றி
OM Ankaalammane Pottri
(OM salutations to Ankalamman)
โอม อังกาลัมมะเน โปตตริ
(โอม ข้าพเจ้าขอน้อมสรรเสริญ อังกาลัมมัน)
เรียบเรียงนำเสนอโดย มุรุเกศัน เทวี อุปาสกะ