

ชุมชนคนรักฮินดู
Share via: Facebook Twitter LinkedIn Copy Link Print More
ความเป็นมาของท่านสุทามามีพรรณาอยู่ในภควัตรปุราณะ ซึ่งถือเป็นคัมภีร์สำคัญทางศาสนาเล่มหนึ่งของฮินดู เรื่องมีอยู่ว่า สุทามานั้นเกิดมาในตระกูลพราหมณ์ที่ยากจน และได้มาเป็นสหายคนสนิทของพระกฤษณะ เมื่อครั้งเรียนอยู่ในอาศรมของท่านสัมทีปนี ครั้งหนึ่ง ภรรยาของท่านสัมทีปนีได้ใช้ให้สุทามาและพระกฤษณะไปเก็บไม้ในป่า ขณะที่ทั้งสองเก็บไม้อยู่นั้น ได้มีพายุใหญ่พัดผ่านมา ทำให้ไม้ที่สะสมไว้โดนพายุพัดหายไปทั้งหมด สุทามากลัวมากพระกฤษณะจับแขนของสุทามาไว้แน่น เพื่อให้สุทามารู้สึกปลอดภัย และเมื่อพายุสงบลง พวกเขาก็พบว่า พวกครับกลับมาอยู่ที่อาศรมของท่านสัมทีปนีนั่นเอง สุทามารู้สึกโล่งใจ และขอบคุณพระกฤษณะ ท่านสัมทีปนีผู้เป็นอาจารย์จึงได้ให้พรแก่ทั้งสองว่าให้มีชีวิตยื่นยาว และมีแต่ความสงบสุข หลังจากที่ทั้งสองเรียนจบ ทั้งสองต่างแยกย้ายไปทำตามหนทางที่ตนเองต้องการ โดยพระกฤษณะกลับไปปกครองนครทวารกา และ ทรงสยุมพรกับพระรุกขมินี(เทวีแห่งความรุ่งเรือง) ส่วนสุทามาก็แต่งงานกับนางพราหมณี และใช้ชีวิตอยู่เยี่ยงพราหมณ์ทั่วไป คือ สวดมนต์ อ่านพระคัมภีร์ สวดมนต์ ละทิ้งความสุขทางโลกทั้งหมด อยู่อย่างสมถะ ทำให้ทุกคนต่างรักและนับถือในตัวของสุทามาเป็นอย่างยิ่ง เขาและนางพราหมณีอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนกระทั่งนางพราหมณีได้ให้กำเนิดลูกสองคน และด้วยความสมถะของทั้งสองทำให้ชีวิตต้องเผชิญกับภาวะยากแค้น จากที่เคยเลี้ยงตนแค่พอกินก็ต้องหาให้ลูก ทำให้อาหารที่มีก็ไม่เพียงพอ ลูกไม่มีเสื้อผ้าใส่ แม้นางพราหมณีจะเทิดทูนการปฎิบัติตนของสามีเยี่ยงใดแต่ก็ไม่คลายกังวลเรื่องลูก จนคืนวันหนึ่งอากาศหนาวมาก นางพราหมณีเห็นลูกทั้งสองไม่มีแม้ผ้าห่มให้ห่มนอน นางจึงเข้าไปคุยกับสามีอย่างอ้อนน้อม ว่า ” ท่านกับพระกฤษณะกษัตริย์แห่งทวารกาเป็นเพื่อนกันใช่หรือไม่? และ พระกฤษณะทรงเข้าพิธีสยุมพรกับพระรุกขมินี […]
ภารตนาฏยัมคืออะไร ภารตนาฏยัม (भरतनाट्यम्) ประวัติการแสดงภารตนาฏยัม การแสดงภารตนาฏยัมในสมัยโบราณ การกระโดดโลดเต้น เมื่อประสบกับสิ่งสุข ความทุกข์ ความสนุกสนานและความรักนั้นเป็นสิ่งที่มีอยู่คู่กับจิตวิญญาณของ มนุษย์ และสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย แต่การเรียนรู้ที่จะเต็นประกอบจังหวะดนตรี และมีความสามัคคีเต็นพร้อมกันอย่างมีแบบแผนนั้น จึงถือว่าเป็น การเต้นรำ การฟ้อนรำ หรือจับระบำ ของมนุษย์นั้น มีมาเนินนานแต่ครั้งที่มนุษย์พร้อมกับมนุษย์เริ่มรู้จักการประดิษฐ์สัญลักษณ์ และมีอารยธรรมแตกต่างจากสัตว์ มีภาพเขียนโบราณสมัยยุคหิน และรูปปั้นในยุคสำริด ที่มีการบัณทึกเรื่องราวเกี่ยวกับการเต้นรำเพื่อ เฉลิมฉลอง จากชัยชนะจากสงคราม การบูชาพระเจ้า ตามความเชื่อแต่ละท้องถิ่นทั่วโลก ฉะนั้นการเต้นรำจึงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมนุษย์และมีความเป็นสากลเช่นเดียวกับเพลงต่างๆที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดกับการเต็นรำเหล่านั้น ศิลปะการร้องเพลงและเต็นรำ เป็นสิ่งที่พัฒนาควบคู่กัน ทั้งในลักษณะที่เป็นปัจเจกชน ในแต่ละชนชาติและลักษณะที่เป็นสากลทั้งหลาย โดยธรรมชาติ และธรรมชาติคือ ครูที่ยิ่งใหญ่และแท้จริงที่สุดของมนุษย์ เป็นผู้สนให้มนุษย์ รู้จักการจังหวะ และความไพเราะ ดังเช่น เสียงของลม เสียงของสายฝน เสียงของน้ำไหล ได้พัฒนาขึ้นกลายเป็นจังหวะดนตรี และดนตรีในที่สุด สัญนิฐานว่า ณ เวลาที่ดนตรีได้ถือกำเนิดขึ้น ในทันทีการเต็นรำก็ถือกำเนิดขึ้นด้วย โดยการเต้นรำที่พัฒนาในแต่ละท้องถิ่น นั้นคือการเต้นรำส่วนการเต็นรำที่ถือได้ว่ามีแบบแผน และเป็นนาฏศิลป์ร่วมสมัย นั้นคือ […]
Cookie | Duration | Description |
---|---|---|
cookielawinfo-checkbox-analytics | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Analytics". |
cookielawinfo-checkbox-functional | 11 months | The cookie is set by GDPR cookie consent to record the user consent for the cookies in the category "Functional". |
cookielawinfo-checkbox-necessary | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookies is used to store the user consent for the cookies in the category "Necessary". |
cookielawinfo-checkbox-others | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Other. |
cookielawinfo-checkbox-performance | 11 months | This cookie is set by GDPR Cookie Consent plugin. The cookie is used to store the user consent for the cookies in the category "Performance". |
viewed_cookie_policy | 11 months | The cookie is set by the GDPR Cookie Consent plugin and is used to store whether or not user has consented to the use of cookies. It does not store any personal data. |